วันนี้คุยกันเรื่องปัญหาเพื่อนบ้าน และ“กฎหมายเพื่อนบ้าน” “เนเบ้อร์ ลอว์” (Neighbor Law) ซึ่งคุณหลายคนคงได้ผ่านปัญหา ถ้าแก้ไม่ได้ก็อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่เกลียดขี้หน้ากัน อยู่บ้านไม่มีความสุขถึงขั้นอยากย้ายบ้าน ปัญหาเพื่อนบ้านส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาต้นไม้ ซึ่งดิฉันได้ประสบกับตัวเอง ซึ่งมันค่อยๆบานปลาย
“เนเบ้อร์ ลอว์”
กฎหมายเพื่อนบ้านเป็นกฎหมายท้องถิ่นของแต่ละเมือง เรียก “โลเคิล ออร์ดิแน๊นซ์” (Local Ordinance) บางแห่งเข้มงวดกว่าบางแห่ง แต่หลายสถานการณ์ที่ไม่มีกฎหมายกำหนด กรณีไม่มีข้อระบุในกฎหมาย ศาลจะตัดสินเป็นคดีๆไปดูจากคดีบรรทัดฐานหรือตามประเพณีความเป็นอยู่ของท้องถิ่นนั้น และการปฏิบัติที่สมเหตุสมผล
ปัญหาต้นไม้เพื่อนบ้าน
ดิฉันอยู่บ้านหัวมุม จึงมีเพื่อนบ้านข้างเดียวซ้ายมือ ครอบครัวชาวอินเดีย 6 คน สามีภรรยามีลูกยังเด็ก 2 คน และพี่สะไภ้ ผู้ชายมีธุรกิจร้านขายลิคเก่อร์และแกมีรายได้เสริม คือขายรถมือสองที่คนมาฝากขายที่ร้าน และแกจะนำรถมาจอดที่หน้าบ้านบททางเข้าโรงรถหรือ “ไดร๊ว์ เวย์” (Driveway) บ้านแกปลูกต้นมะนาวและพุ่มไม้หลากชนิดเป็นรั้วเตี้ยกั้น (ดูรูป 1) ปัญหาคือ เวลาหน้ามะนาวออกลูก ลมจะพัดใบไม้และดอกไม้ร่วงมาเขต “ไดร๊ว์ เวย์” บ้านดิฉัน และพุ่มไม้ก็จะรกเร็ว (บ้านนี้ปลูกอะไรก็งาม) พี่สะไภ้ก็จะเดิน เสต็ปข้ามทางช่องว่างระหว่างรั้วต้นไม้ประมาณ 3 ฟุต ลงมา“ไดร๊ว์ เวย์” ทางเข้าโรงรถบ้านดิฉัน (ดูรูป 2) เข้ามาตัดกิ่ง เล็มต้นไม้ และมากวาดใบไม้ที่ปลิวมาเข้ามาเขตดิฉัน แรกๆเห็น ดิฉันก็ “แต๊ง กิ้ว” เขา พอแกเริ่มเข้ามาบ่อยเข้าและ ลากถังขยะของแกมาด้วย เพื่อกวาดใบไม้ทิ้ง หลายครั้งที่แกวางทิ้งถังขยะบน “ไดร๊ว์ เวย์” เพื่อไปทำธุระในบ้านแกเป็นชั่วโมง คราวนี้ดิฉันเริ่มรำคาญ แต่ก็พยายามทำใจ

รูป 1 ต้นมะนาวและพุ่มไม้แบ่งเขตรูป
2 ทางผ่าน


กฎหมายพุ่มไม้เป็นรั้วแบ่งเขต
กรณีพุ่มไม้เป็นรั้วแบ่งเขต ตามกฎทั่วไปรากต้นไม้อยู่บ้านไหน คนนั้นเป็นเจ้าของๆมีหน้าที่ดูแลต้นไม้ ตัดหรือเล็มกิ่งไม้และใบไม้ กรณีกิ่งไม้และใบไม้ล้ำเข้าเขตเพื่อนบ้าน ถ้าเจ้าของต้นไม้จะเล็มต้นไม้เขตเพื่อนบ้าน เขาต้องขออนุญาตเพื่อนบ้าน เพื่อเข้ามาตัดหรือเล็มต้นไม้ในเขตเพื่อนบ้าน
บุกลุกพื้นที่
ปล่อยนานเข้าพี่สะไภ้เริ่มวิสาสะ ทุกวันพุธเป็นวันเก็บขยะ เรามี 3 ถังใหญ่ ขยะธรรมดา ขยะ“รีไซเคิล” และ ขยะเขียวสำหรับต้นไม้ใบไม้ พี่สะไภ้เริ่มลากถังขยะทั้ง 3 ถังผ่านทางช่องว่างระหว่างรั้วประมาณ 3 ฟุต ลงมา“ไดร๊ว์ เวย์” บ้านดิฉัน เพื่อเอาขยะไปวางหน้าบ้าน ดิฉันเห็นโดยบังเอิญครั้งแรก ผงะแต่พูดไม่ออก สัปดาห์ต่อไป คอยแอบดูว่าแกจะทำอีกไหม แกก็ยังทำอยู่ ดิฉันไปบอกสามี ว่าดิฉันต้องการบอกห้ามเพื่อนบ้าน สามีบอกก็ลองดูไปก่อน ดิฉันบอกสามีว่าถือเป็นการบุกลุกพื้นที่ ถ้าเราไม่ห้ามเขาเดี๋ยวนี้ ยิ่งนานไปยิ่งยากเหมือนกับว่าเราอนุญาตโดยปริยาย ดิฉันเลยตัดสินใจพูดกับพี่สะไภ้ทันที ว่า ดิฉันไม่ต้องการให้เขาใช้ทางเขตบ้านดิฉันเป็นทางผ่านถังขยะของเขา เพราะดิฉันกลัวเขาจะหกล้มในเขตบ้านดิฉัน แกจ้องหน้าดิฉันสักพักไม่พูดอะไร อีก 2-3 วัน ผู้ชายมาพูดกับดิฉันว่า “พี่สะไภ้ผมแข็งแรง ลากขยะหนักๆสบายไม่เคยหกล้มเลย” ดิฉันตอบ “นี่คุณดิฉันในฐานะทนาย ดิฉันต้องปกป้องตัวเองไว้ก่อน กรณีฉันห้ามคุณแล้ว ถ้าทางคุณยังเข้ามาอีกเท่ากับบุกรุก” เขาพูดต่อว่า “รถเราจอดเต็ม 3 คันไม่มีที่ลากขยะ” ดิฉันบอก “คุณก็เลื่อนรถสิคะ” ดูรูป 3

สรุป หลังจากนั้นแกก็ไม่ได้เดินผ่าน แต่ดิฉันต้องการให้ “ชัวร์” เพราะนึกว่าตอนดิฉันเดืนทางไปไทย 1 เดือน แกอาจจะข้ามเขตมาอีก เลยตัดสินใจเอาอิฐบล๊อกไปวางกั้นและวางต้นไม้กั้น ตามรูป 2
คำแนะนำการปฎิบัติต่อเพื่อนบ้าน
ดิฉันเรียนรู้อย่างหนึ่งว่า เราไม่ควรสนิทกับเพื่อนบ้าน ในฐานะเพื่อน ไม่อย่างงั้นจะ ขยาย จาก 1 เป็น 2 และภายหลังก็ขัดใจกัน ดิฉันเชื่อว่าเพียงมี “มิตรภาพ” ให้เท่านั้นพอ “ยิ้ม” และเจอหน้าก็ “say Hi” ก็พอแล้ว ไม่ต้องปรับทุกข์หรือนินทาเพื่อนบ้านคนอื่นให้เพื่อนบ้านฟัง และมีปัญหาระหว่างเพื่อนบ้านก็ควรพูดทันที พูดตรงๆและจริงใจ ยิ่งเก็บ ยิ่งร้อนใจและไม่แฮ็ปปี้ ดิฉันมักจะนึกถึงคำสอนในพระคัมภีร์ ที่ว่า “Love thy neighbor”
“รักเพื่อนบ้าน เช่นเดียวกับรักตัวเอง”

รูปที่ 3

Published by JK

https://www.linkedin.com/in/jiradett/

%d bloggers like this: