วันนี้วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม วัน“เมโมเรียล เดย์”ของอเมริกา เป็นวันรำลึกทหารผ่านศึกที่ล่วงลับไปแล้ว ตรงกับวันจันทร์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคมแต่ละปี ประธานาธิบดีจะไปทำความเคารพที่สุสานทหารผ่านศึก “อาร์ลิงตัน” รัฐเวอร์จิเนีย วันรำลึกนี้เริ่มมาตั้งแต่ปี  ค.ศ. 1868 หนึ่งปีหลังสงครามกลางเมืองสิ้นสุดลง (หรือสงครามเลิกทาส) จนกระทั่งปี ค.ศ. 1971 รัฐบาลได้สถาปนาวันจันทร์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม เป็นวันหยุดราชการอย่างทางการ “เมโมเรียล เดย์” และวัน “เมโมเรียล เดย์” อย่างไม่เป็นทางการ ถือเป็นวันเริ่มต้น “ซัมเม่อร์” อีกด้วย

ปัจจุบันคนทั่วไปถือวันนี้เป็นวันที่ระลึกผู้ที่ล่วงลับจากเราไป พ่อ แม่ พี่น้อง เพื่อน เป็นต้น เดือนที่ผ่านมา พี่สาวดิฉันเสียชีวิตด้วยโรค “อัลซายเม่อร์” เรามีกันสองคนในอเมริกา ทำให้ดิฉันเศร้ามาก คุณแม่เคยสอนว่า “คนเราไม่จากเป็น ก็จากตาย” ก็ถูกต้องอยู่ แต่พี่สาว “ทั้งจากเป็นและจากตาย” เพราะเธอจำดิฉันไม่ได้มาหลายปีก่อนตาย พี่สาวคนโตของดิฉันปลอบใจว่า โรค“อัลซายเม่อร์” นี้เธอไม่เจ็บปวดทรมาน ถ้าเปรียบกับมะเร็ง จะเจ็บปวดทรมานมาก (ฮือๆๆ)

ตอนนี้ดิฉันเหลือพี่สาวคนโต “พี่ต้อย” 1 คนอยู่เยอรมัน และน้องชายคนสุดท้อง “น้องต๋อ” 1 คนอยู่เมืองไทย ตอนคุณพ่อเสีย ดิฉันเศร้า แต่ไม่ถึงกับหมดแรง 8 ปีให้หลังคุณแม่เสียตอนนั้นดิฉันแทบหมดแรง โศรก เสร้ามาก “พี่ต้อย”บอกว่า ที่เราเศร้ามากที่คุณแม่จากเราไป เพราะเท่ากับตอนนี้“เราไม่เป็นลูกใครแล้ว” พี่เขาพูดถูกต้อง ใช้เวลานานมากกว่าจะทำใจได้ นึกย้อนถึงประโยคที่พี่ต้อยบอกหลังคุณแม่เสียว่า “เราไม่เป็นลูกใครแล้ว” เลยตั้งสติได้ว่า “ดิฉันยังเป็นน้องสาว และเป็นพี่สาวคน”

สุสานทหารผ่านศึก “อาร์ลิงตัน” รัฐเวอร์จิเนีย

วัน “เมโมเรียล เดย์” นี้ มีความหมายกับดิฉันมาก ดิฉันจะถือเป็นวันที่รำลึก ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว พ่อ แม่ พี่สาว และน้องชายคนรองมา (น้องหายสาบสูญที่ประเทศลาวตั้งแต่ปี ค.ศ. 1976) พี่สาวเสียวันที่ 26 เมายน เผาวันที่ 13 พฤษภาคม ดิฉันเหนื่อยใจ และกายมาก ไม่มีแรงเขียนคอลัมน์ และมาประกอบกับญาติสามีที่ดิฉันรักและสนิทมาก หัวใจวายตายเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม เขาเป็นผู้ที่ทำให้ดิฉันได้เจอกับสามี และแต่งงานกัน

ดิฉันเขียนคอลัมน์นี้เมื่อวาน ถ้ามีแรงเขียนคอลัมน์นี้จนจบ แสดงว่าดิฉันโอเคแล้วค่ะ คำสอนของคุณแม่อีกประโยคตอนคุณพ่อเสีย คือ “เสียหนึ่ง อย่าเสียสอง นะลูก” จริงค่ะ ชีวิตเดินหน้าต่อไป “ลาบิด้า ซิเก่” (La vida sigue) “ไล๊ฟ โกส์ ออน” (Life goes on)

แล้วคุยกันเดือนหน้านะคะ

Published by JK

https://www.linkedin.com/in/jiradett/